วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Verb คำกริยา

You will never walk alone.

สวัสดีค่ะ ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน

Part of Speech ผ่านไปแล้ว  2  ประเภท เรามาต่อกันที่  ประเภทที่  3 กันเลยนะคะ  นั่นก็คือ Verb เอ๊ๆ...อะไรนะ Verb 🦁 คุ้นๆจังเลย VERB คืออะไร บอกได้ไหม ใครจำได้^^


🐝 V E R B  🐝

👉🏻 คำกริยา

?????แล้วคำกริยาคืออะไรอีกละพี่น้องครับ? 😒

👉🏻คำที่แสดงอาการต่างๆ

?????ยกตัวอย่างให้ดูหน่อย ยัง  งง  อยู่ 😂

👉🏻 eat (กิน) , sleep (นอน) , etc.


อ๋อ!!!เก็ตละ ยิปปี้ มามี้โปโกะ เอิ๊กๆง่ายจังเลย 

   Verb โดยทั่วไปแบ่งได้ 2 ประเภท 



1.Finite verb ( กริยาแท้)
---------------🎉---------------
แท้ยังไงอีกล่ะ ย๊ะหล่อน แท้แบบไม่มีสารเจือปนป่าว ฮ่าๆ

แหม่ !! ทำเป็น งง เอ้า เข้าเรื่องกันต่อ


🎉🎉🎉---------🔷--------🎉🎉🎉

🎈 1 . ผันตามประธาน(เอกพจน์/พหูพจน์)

ประธานพหูพจน์[ I , you , we , they] 

verb ไม่ต้องเติมอะไรทั้งสิ้น 

Example:want to go to the zoo
ฉันอยากไปสวนสัตว์ (เอาล่ะครับพี่น้อง อยากกลับบ้านเกิด ฮ่าๆ )


ประธานเอกพจน์  [ he,she,it] verb ต้องเติม s,es ตามหลักการเปลี่ยนverb

Example: She wants  to go to the Zoo.
หล่อนอยากไปสวนสัตว์


🎉🎉🎉---------🔷--------🎉🎉🎉


🎈 2. ผันตาม Tense 

Present Simple Tense 

Example: want to go to the temple.

Past Simple Tense

Example: wanted to go to  the temple .

ยังเหลืออีก 10Tense
2Tenseนี้เป็นเพียงตัวอย่างให้พอเข้าใจนะคะ
Want และ wanted ต่างก็เป็นกริยาแท้ทั้งสิ้นเพราะผันตาม Tense 


🎉🎉🎉---------🔷--------🎉🎉🎉

🎈3. ผันตาม Voice 

Active Voice 

Example: Justin writing the essay.

Passive Voice

Example: The essay being written by Justin

เราต้องสังเกตถ้าอยู่ในรูป Active Voice /  Passive voice ถือว่ากริยานั้นเป็นกริยาแท้ ในตัวอย่างก็คือคำว่าwriting   written 




2.Non - Finite Verb (กริยาไม่แท้)

❗️ไม่ผันตาม S / Tense / Voice 

ไม่แท้ก็แปลว่าปลอมใช่ปล่าว ฮ่าๆ

น้อง ทู    ปิ้ง    แอปเปิล 
        to   ing  Participle 


🎉🎉🎉---------🔷--------🎉🎉🎉

🎈 1 . Infinitive [ to + V.1 ]

ก็คือ คำว่า to + กริยาช่องที่1 เท่านั้น ย้ำ!!ว่าต้องเป็นคำกริยาเท่านั้น

ห้ามเป็นNounหรืออย่างอื่นเด็ดขาด

✔️ to see , to forgive,to sleep, etc.
to school , to my house (ไม่ใช่Infinitive❗️)


Example: I want to buy a dress.
ฉันอยากจะซื้อชุด(จัง)


🎉🎉🎉---------🔷--------🎉🎉🎉

🎈 2 . Gerund ( กริยานาม)    

V.1 + ing  เช่น eating, going,sleeping, etc.

Example;  They are enjoy playing tennis.
พวกเขากำลังสนุกสนามกับการเล่นเทนนิส

Example; Sleeping is necessary for human.
การนอนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์


🎉🎉🎉---------🔷--------🎉🎉🎉

🎈 3 .Participle 

3.1 Present participle (V-ing) 


Example: The teacher is teaching the students .
คุณครูกำลังสอนนักเรียน

Example: They are teaching the students  .
พวกเขากำลังสอนหนังสือนักเรียน

Example: We were teaching the students  yesterday.
พวกเราได้สอนสอนหนังสือนักเรียนอยู่เมื่อวานนี้


is , are  ,were เป็นกริยาแท้(Finite Verb)

แต่คำว่า teaching  ไม่เปลี่ยนไม่ผัน  มันคงรูปเหมือนเดิมทุกประโยค ดังนั้นคำนี้จัดเป็น 
Non-Finite Verb 


🎉🎉🎉---------🔷--------🎉🎉🎉


3.2 Past Participle นั่นก็คือ V.3 ( กริยาช่องที่ 3) 
แบ่งได้ดังนี้


คุณศัพท์ประกอบหน้าคำนาม

Example: The broken glass .
แก้วที่แตกแล้ว (คำนามคือ แก้ว)

ตามหลัง v.to be 

Example: I am called .ฉันถูกเรียกตัว

ตามหลัง v.to have 

Example: I have never seen this temple before.
ฉันไม่เคยเห็นวัดแห่งนี้มาก่อนเลย




จิ๊บๆ หลายๆคนคงจะต้องเอ่ยเป็นทางเดียวกันว่า "ง่ายจังเลย" "อ่านแป๊บเดียวก็เข้าใจแล้ว" ใช่ไหมคะ .... คำกริยา(Verb) เป็นสิ่งที่เราควรรู้จักเพราะส่วนประกอบของประโยคต้องมีคำกริยา

เช่น  I eat rice ฉันกินข้าว
ถ้าไม่มีคำว่า eat  เราจะไม่ทราบเลยว่าประโยคนี้จะสื่ออะไร .... 

Done!!!! 

อย่าลืมทบทวนนะคะ คุณจะต้องเก่งภาษาอังกฤษแบบ expert แน่ๆ 
แล้วกลับมาพบกันใหม่ค่ะ


🎈🎈🎈🎈สวัสดีค่ะ🎈🎈🎈🎈
Do not give up!! แปลว่า อย่ายอมแพ้ 
ตึ่งโป๊ะ!แยก😄










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น