วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Noun คำนาม

Time and tide  waits for no man.
กาลเวลาไม่เคยคอยใคร.

สวัสดีค่ะ.ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีสตรีที่น่ารักทุกท่าน

การเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลดีที่สุดเราควรรู้ที่มาที่ไปของแต่ละบทเรียน และเราควรเรียนรู้ให้ต่อเนื่องกัน. ทุกท่านคะ มีใครเคยได้ยินคำว่า Part of speech ไหมคะ เอ๊ะ!คุ้นๆใช่ไหมคะ แน่นอนค่ะเพราะเราเรียนมาแล้วตั้งแต่สมัยเด็กๆ ฝ. งั้นได้เวลาแล้วที่เราจะมารื้อฟื้นอดีต  เริ่มต้นด้วย" Noun " = คำนาม

🎉 Let's learn about Noun together.

☘   NOUN คำนาม   ☘

⭕️ คำนาม คือ คำที่ใช้เรียก คน สัตว์ สิ่งของ  สถานที่


เรามารู้จักกับคำนามแต่ละชนิดกันนะคะ

1.Common Nouns  คำนามทั่วไป

คำว่า Common แปลว่า" ทั่วไป"

🔷นามไม่เฉพาะเจาะจง

Example:
 Boy, Book ,television,tree, cat , hippopotamus, dog,School,hospital,hotel,teacher,farmer,etc.

🔷มีความหมายโดยรวม ไม่ได้กล่าวถึงอันนี้อันนั้น

Example:

The boy  [ผู้ชาย: ไม่รู้คนไหน?ผู้ชายคนไหน? ]
 Book      [ หนังสือ: เล่มไหนละคะ? ไม่ทราบชื่อ]

จำง่ายๆว่าถ้าไม่มีชื่อบอกเป็นคำทั่วไป เรียกว่า Common noun

🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈

2.Proper Nouns คำนามเฉพาะเจาะจง

🔷เจาะจง แปลว่า ไปชี้น่าได้เลยว่าเป็นคนนั้นคนนี้ สิ่งนั้นสิ่งนี้!

Example:

Thailand   (ชื่อประเทศ),
 Somsri     (ชื่อคน)
Chiang Rai   (ชื่อจังหวัด)
Cambridge   (ชื่อมหาลัย)
Samsung / Oppo     (ยีห้อสินค้า)
Sahara dessert     (ชื่อทะเลทราย)

จำง่ายๆว่าถ้ามีชื่อบอก จะเรียกว่า Proper Noun.

🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈

3.Abstract Noun นามธรรม

หรือ เป็นที่คุ้นชินกับคำว่า "อาการนาม"

Courage ความกล้าหาญ
Affection ความรัก
Education การศึกษา
Richness ความร่ำรวย

คำนามชนิดนี้หากเราสักเกตดีๆ จะพบว่า มักจะลงท้ายด้วย   tion ness

🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈

4.Collective noun นามหมวดหมู่

หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ชื่อของหมู่คณะ"

 Class ชั้น แบ่งเป็น3ชั้น
Team ทีม แบ่งเป็น2ทีม
Herd ฝูง แบ่งสัตว์ออกเป็นฝูง
Cluster กลุ่มใช้กับดาวเป็นกลุ่มเป็นกระจุก

เป็นคำที่มักลงท้ายประโยคที่บอกจำนวนเช่น วัว1ฝูง
นักกีฬา4ทีม

🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈

เอาล่ะค่ะ ... นอกจากคำนาม4ประเภทนี้แล้ว ยีงุมีคำนามประเภทอื่นๆอีกนะคะ ที่ยกมาคือประเภทที่สำคัญๆค่ะ

คำนาม ยัง แบ่งออกได้อีก2ประเภท

1.นามนับได้( Countable Noun)

👁‍🗨ต้องเติม s,es เมื่อเป็นพหูพจน์(Plural )

Banana ---- Bananas
house------houses
Book ------ Books
Student----students


👁‍🗨สามารถมีArticle ได้ นั่นก็คือ a,an
a cat , an apple, an elephant, a boy

🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻

2.นามนับไม่ได้ uncountable Noun

👁‍🗨ห้ามเติม s,es เด็ดขาด! ถึงจะมีมากก็ตาม

👁‍🗨มีรูปเดียวคือ เอกพจน์
👁‍🗨หากต้องการเปลี่ยนจากมี
1--->มากว่านั้น
 ให้ใช้คำบอกปริมาณแทน

Example: 
Five cups of tea
ชา5แก้ว

👉🏻เราจะไม่เติมs,es ที่น้ำชา เพราะมันนับไม่ได้

Example:
Soap (สบู่) ,furniture (เฟอร์นิเจอร์), beef (เนื้อวัว) , pork(เนื้อหมู) , mutton(เนื้อแกะ) , wood(ไม้แปรรูป) , cloth(ผ้า) , paper ,water, bread , milk ,sugar , etc.

🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻

Function of noun (หน้าที่ของคำนาม)


1.Subject   (ประธาน) / (object)


2.Direct object  (กรรมตรง)
- ใช้กับ สิ่งของเท่านั้น

Example:  She give me a book.
หล่อนให้หนังสือกับฉัน.

3.Indirect object   (กรรมรอง)
-ใช้กับคนเท่านั้น

Example:   She give me a book.

โครงสร้างประโยคประกอบด้วย

S+V+O

แต่ Verb คือ คำว่า give
👉🏻อยู่หลังVerb เป็นคน > indirect object [me]
👉🏻อยู่หลังVerb เป็นสิ่งของ > direct object [book]

4.Complement   (ส่วนขยาย)

มักจะตามหลัง V.to be  (is , am ,are)

Example: I am a teacher.
ฉันเป็นคุณครู
ถ้า I am ..... ฉันเป็น...เราจะรู้ไหมเอ่ยว่าเป็นอะไร?ไม่รู้แน่นอนค่ะ
ดังนั้นเราจึงต้องมี Complement (ส่วนขยาย)นั้นเอง

5.Object of a preposition  (กรรมของบุพบท)

Example: 

1. Jack thinks of his mother when he leaves the house.
แจ๊คคิดถึงคุณแม่เมื่อเขาออกจากบ้าน

Preposition = of
คำว่า his mother เป็น Noun และทำหน้าที่เป็น กรรม ของคำว่า" of "

2. Pam has waited for him for a long time.
แพมได้รอเขามานานแล้ว.

Preposition = for
คำว่า him เป็น Noun และทำหน้าที่เป็น กรรม ของคำว่า "for"

🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น